13.ค่าระดับน้ำตาลในเลือด แต่ละประเภท

ค่าน้ำตาลในเลือด Estevia น้องเบาหวิว

ค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสม(HbA1c) คือ การตรวจดูปริมาณน้ำตาลที่เกาะติดอยู่กับส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดง

หากในเส้นเลือดของเรามีน้ำตาลอยู่มากน้ำตาลก็จะไปเกาะที่เม็ดเลือดแดงมากด้วยเช่นกันมีผลทำให้ค่าน้ำตาลเฉลี่ยน้ำตาลสะสมสูงขึ้นดังนั้นจึงเห็นว่าระดับน้ำตาลทุกๆเวลา ทุกๆวันนั้นมีผลกับการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสม

ซึ่งเราสามารถตรวจดูค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสมได้ทุก 120 วัน หรือประมาณ 3-4 เดือน

ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าหากเราตรวจน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในวันนี้ผลที่ออกมาจะบอกเราว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมา3เดือนเราคุมน้ำตาลโดยรวมได้ดีแค่ไหน

หากค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสม ต่ำกว่า 7 % แสดงว่าโดยรวมเราคุมน้ำตาลได้ดี หากสูงกว่านี้แสดงว่าเรายังคุมน้ำตาลในช่วงที่ผ่านมาไม่ดี

ซึ่งมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าหากปล่อยให้น้ำตาลเฉลี่ยสะสมสูงกว่า 7% ไปเรื่อยๆ

ก็จะมีโอกาสสูงมากที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนจากการเป็นเบาหวาน เช่น ตาบอด ไตวาย ระบบประสาทเสื่อม ด้วยเหตุนี้แพทย์จึงใช้ น้ำตาลเฉลี่ยสะสมเป็นตัวทำนายการเกิดโรคแทรกซ้อนในอนาคตของคนที่เป็นเบาหวาน

.
หากเรามีค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสมสูงนั่นแสดงว่าเรามีน้ำตาลบางเวลาของวันสูงด้วยเช่นกัน เช่น บางคนมีน้ำตาลตอนก่อนรับประทานอาหารเช้าดี แต่น้ำตาลมื้ออื่นๆของวัน รวมทั้งน้ำตาลหลังอาหารสูงก็จะทำให้ค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสมสูงด้วยเช่นกัน

ดังนั้นเมื่อเรามีน้ำตาลเฉลี่ยสะสมสูงเราต้องมาหาต่อว่าน้ำตาลตอนไหนของวันทำให้ค่าเฉลี่ยน้ำตาลสะสมของเราสูง

ซึ่งสิ่งที่ช่วยค้นหาว่าน้ำตาลตอนไหนของวันเราสูงก็คือการตรวจน้ำตาลด้วยตนเองนั่นเอง

และโดยธรรมชาติของคนที่เป็นโรคเบาหวานนั้นจะมีน้ำตาลเปลี่ยนแปลงได้มากในแต่ละช่วงเวลาของวัน

ในขณะที่คนที่ไม่เป็นเบาหวานจะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

หลายๆครั้งเราจะพบว่าการที่ผู้ป่วยเบาหวานบางคนที่มีระดับน้ำตาลในเลือดเหวี่ยงขึ้น-ลงสูง หรือเรียกง่ายๆว่ามีอาการน้ำตาลต่ำสลับกับน้ำตาลสูงบ่อยๆ ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา อาจส่งผลทำให้มีค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสม (HbA1c) ต่ำลงหรืออยู่ในเกณฑ์ดีได้ แต่ค่าที่ดีนี้ไม่ได้สะท้อนว่าผู้ป่วยเบาหวานนั้นมีระดับน้ำตาลที่ดีอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาที่ผ่านมา ดังนั้นการเห็นค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสมเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอกับการดูแลรักษาโรคเบาหวานให้ปลอดจากโรคแทรกซ้อน

ที่มา www.diabetescareth.com